โดย Gina Lee

– ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเช้าวันพุธในตลาดเอเชีย พลิกกลับจากการขาดทุนของเซสชั่นก่อนหน้าเนื่องจากมีความหวังเพิ่มขึ้นสำหรับความคืบหน้าใน การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯ ล่าสุดยังเตือนใจถึงอุปทานที่ตึงตัวในตลาดอีกด้วย

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ได้รับ 0.53% เป็น 108.28 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 13:20 น. ET (5:20 น. GMT) พลิกกลับจากการขาดทุน 2% จากช่วงก่อนหน้า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.67% เป็น 104.94 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากการที่ร่วงลง 1.6% ในวันอังคาร

นักลงทุนได้โฟกัสที่เรื่องอุปทานตึงตัว โดยรายงาน ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ในวันอังคารได้แสดงถึงการเบิกออกมาใช้ 3 ล้านในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 มี.ค. การคาดการณ์ที่จัดทำโดย คาดการณ์ว่าจะมีการเบิกออกมาใช้ 1.558 ล้านบาร์เรล ขณะที่บันทึกได้แสดงตัวเลขการนำเอาออกมาใช้ที่ 4.28 ล้านบาร์เรล ในช่วงสัปดาห์ก่อน

นักลงทุนรอ ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสำนักงานข้อมูลพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ส่งมอบภายในวันนี้

ตลาดร่วงลงประมาณ 2% ในช่วงก่อนหน้า โดยรัสเซียให้คำมั่นที่จะลดขนาดปฏิบัติการทางทหารรอบ ๆ เมืองเคียฟ และเมืองอื่น ๆ ในระหว่างการพูดคุยเพื่อสันติภาพแบบซึ่งหน้าในวันอังคาร ซึ่งการเคลื่อนไหวทางทหารดังกล่าวเกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งเดือนหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ยังคงมีรายงานการโจมตียังคงดำเนินต่อไป

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนยังกล่าวด้วยว่ายังมีสัญญาณที่มีแนวโน้มที่ดีจากการเจรจา แต่เขากำลังมองหาผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม “เราสามารถพูดได้ว่าสัญญาณที่เราได้รับจากการเจรจานั้นเป็นไปในเชิงบวก แต่ยังมีการโจมตีจากทางรัสเซียอยู่” เขากล่าวในการปราศรัยช่วงดึก

โทบิน โกเรย์ นักวิเคราะห์จาก ธนาคาร Commonwealth ระบุในหมายเหตุว่า "การฟื้นตัวของราคาแสดงให้เห็นว่าตลาดน้ำมันมีระดับความสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับ ‘ความคืบหน้า‘"

นักลงทุนกำลังมองหาประเด็นจากการประชุมครั้งต่อไปของ Organization of the Petroleum Exporting Countries and Alliance (OPEC+) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ไม่น่าจะเพิ่มกำลังการผลิตเกินระดับที่ตกลงไว้ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวันซึ่งเพิ่มระดับความตึงตัวของตลาดมากยิ่งขึ้น แหล่งข่าวหลายแห่งที่ใกล้ชิดกับกลุ่มพันธมิตรกล่าวกับรอยเตอร์ส

ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งต่างก็เป็นสมาชิกหลักของกลุ่ม OPEC+ กล่าวว่า กลุ่มนี้จะไม่พยายามดำเนินการใด ๆ กับรัสเซียสำหรับการรุกรานยูเครน OPEC+ จะทำให้ตลาดมีเสถียรภาพเท่านั้นและจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง